เกษตรกรเมืองนนท์หันปลูก ‘อินทผลัม’ ผลไม้ราคาแพงกำไรมหาศาล
หากพูดถึงผลไม้ที่ชื่อว่า ‘อินทผลัม‘
หลายคนคงนึกถึงผลไม้ที่มีราคาสูง
ซึ่งบางสายพันธุ์มีราคาสูงกว่าหนึ่งพันบาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว
โดยผลไม้ชนิดนี้จัดเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง มีมากกว่า 30 สายพันธุ์
และมีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง
เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในเขตที่มีอากาศร้อน
ซึ่งในประเทศไทยเริ่มมีการเพาะปลูกมาหลายปีแล้ว
วันนี้ MThaiNews ในช่วง ‘เกษตรสร้างรายได้‘ ได้มีโอกาศเดินทางไปพบกับคุณปรีชา ธรรมเชาวรัตน์ อายุ 77 ปี เจ้าของ ‘สวนอินทผลัมปรีชา‘
ตั้งอยู่ที่ 70 หมู่ 2 ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งได้หันมาปลูก
‘อินทผลัม’ ส่งขายทั้งแบบเพาะเนื้อเยื้อ และจำหน่ายทั้งลูกอินทผลัม
โดยคุณปรีชา
เปิดเผยว่าได้อยู่ในแวดวงเกษตรมานานกว่า 20 ปีแล้ว
ซึ่งแต่ก่อนทำไม้ดอกไม้ประดับนั้นคือสวนชวนชมลีลาวดี
จนสร้างชื่อเสียงได้อย่างกว้างขวางเป็นที่รู้จักก่อนที่จะถึงจุดอิ่มตัว
จนหันมาศึกษาเรื่อง ‘อินทผลัม‘
เมื่อช่วงปี 2557 โดยได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานจากสวนต่างๆ
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซึ่งเหตุผลที่เลือกอินทผลัมนั้น
เพราะนอกจากจะเป็นพืชที่มีราคาดีแล้ว
ยังเป็นพืชที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งมีสรรพคุณนานาชนิด
แรกเริ่มนั้นคุณปรีชาได้ลงทุนซื้อต้นอินทผลัมมาจำนวน
200 ต้น มูลค่าประมาณ 4 แสนบาท เริ่มปลูกในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2557
และเริ่มให้ผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคมปี 2558 แต่ยังไม่เป็นที่พอใจนัก
เนื่องจากต้นอินทผลัมที่เพาะเลี้ยงนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเพศผู้
ซึ่งจะออกแต่ดอกเพื่อนำมาใช้ผลิตเกสรนำไปผสมเท่านั้น
จึงหันมานำเข้าต้นอินทผลัมที่ผ่านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเข้ามาปลูกโดยสั่งมาจากต่างประเทศ
โดยต้นที่มาจากการเพาะเนื้อเยื้อนั้นจะได้เพศตามที่ต้องการชัดเจน
ผลผลิตและเรื่องรสชาติก็จะได้เหมือนตามต้นแม่อีกด้วย
แต่ก็จะมีราคาสูงขึ้นไปตามขนาดไซส์
โดยคุณปรีชาจะน้ำเนื้อเยื้อมาอนุบาลจนกระทั่งมีราก ความสูงของต้นประมาณ 30
เซนติเมตร ก็สามารถนำลงปลูกได้แล้ว
ซึ่งเทคนิคการปลูกอินทผลัมของคุณปรีชาจะปลูกเว้นระยะแต่ละต้น
7 เมตร หรือถ้าคิดตามสัดส่วน 1 ไร่ สามารถลงปลูกได้ประมาณ 30 ต้น
เพศผู้ประมาณ 3-4 ต้น ไว้เอาเกสรผสมพันธุ์กับเพศเมีย
และควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับการผสมพันธุ์นั้นจะนำเกสรที่ได้จากตัวดอกซึ่งมีลักษณะคล้ายแป้ง
นำมาผสมกับแป้งเด็ก(ที่ไม่มีกลิ่น) เกสร 1 ส่วน แป้งเด็ก 5 ส่วน
แล้วน้ำไปพ่นตามช่อของต้นเพศเมียในช่วงก่อนเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม
โดยที่สวนของคุณปรีชาจะเน้นปลูกสายพันธุ์บาฮี
ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่นิยมกินผลสดมีรสชาติหวาน
มีหลายๆประมาณให้การยอมรับว่าสายพันธุ์นี้เมื่อมาเพาะปลูกที่ประเทศไทยมีรสชาติที่ดีกว่าหลายประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น